Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
ลูบพาบ lu:p-phap HF-HF รูปภาพ picture, photo 11/8

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — Page 25 — Series A, pictures 05-07: picture, camera, to take a picture


5 นี้คือลูบพาบ
6 นี้คือก้องถ่ายลูบ
7 เขากำลังถ่ายลูบ

BCF06 Expressing thanks (2) — Description


พาบนี้กะสิเฮ็ดให้เฮาฮู้อีกคือเก่าว่า เป็นกานเว้า ขอบคุณ หลือ ขอบใจ

ก่อนที่เฮาสิเว้า ขอบคุณ หลือ ขอบใจ กับใผนั้น คนพุนั้นเขากะอาดสิมาซ่อยเหลียเฮา หลือเฮ็ดอี่หยังให้เฮาบางสิ่งบางอย่าง แล้วเห็นลูบพาบนี้กะสิฮู้ว่า เป็นหญังพุหญิงคนนี้เขาคือขอบคุณพุซายคนนี้ กะเพาะว่าพุหญิงคนนี้ เขากำลังสิเฮ็ดงานบางสิ่งบางอย่าง แต่เขาบ่สามาดเฮ็ดได้ พอพุซายคนนี้เห็น เขากะเลยอยากซ่อย อยากซ่อยเหลีย เพื่อว่าสิซ่อยให้งานของพุหญิงคนนี้เลียบล้อย หลือเส็ดลุล่วงไปด้วยดี พอพุซายคนนี้ซ่อยงานของพุหญิงเส็ดเลียบล้อยแล้ว พุหญิงคนนี้กะบ่มีอี่หยังตอบแทนนอกจากใซ้คำว่า ขอบคุณ

ขั้นพุซายคนนี้อายุส่ำกันกับพุหญิง พุหญิงเขากะอาดสิเว้าว่า

ขอบคุณหลายเด้อ
ขอบคุณหลายเด้อจ้า

แต่ว่าขั้นพุซายคนนี้มีอายุน้อยกว่าพุหญิงคนนี้ พุหญิงคนนี้ เขากะอาดสิเว้าว่า

ขอบใจหลายเด้อ
ขอบใจหลายเด้อจ้า

แต่ว่ากะสามาดเว้าได้อีกอย่างหนึ่งว่า

ขอบใจหลายเด้อ ที่มาซ่อย
ขอบคุณหลายเด้อ ที่มาซ่อย

เฮากะอาดสิสามาดเว้าได้ปะมานนี้เนาะคับ

Basic vocabulary — Page 30 — Series B, pictures 11-13: to paint/colour, flower, frog, temple


11
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีคนคนหนึ่งเนาะ กำลังอาดสิวาด วาดพาบ วาดพาบหลือวาดลูบ อันนี้เบิ่งแล้วกะเป็นลูบดอกไม้
ลูบดอกไม้ดอกเดียวเนาะ มีง่าพ้อม มีใบสองใบ แล้วกะมีดอกพ้อม ดอกเดียวเด่ะ ดอกบานพ้อมเด่ะ บานสี เออ สีเหลียง
เขากะใซ้มือข้างเดียวเขาหละ มือข้างหนึ่งกะอาดสิจับอย่างอื่นเนาะ อาดสิจับสีไว้ แล้วกะใซ้มืออีกข้างหนึ่งละบายสี
แล้วลูบพาบนี้ หลือว่าดอกไม้นี้งามบ่ กะงามอยู่ เบิ่งงามดอก เขากะวาดงามอยู่เนาะ

12
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะ เขากำลังวาดลูบเนาะ หลือว่าละบายสีลูบพาบ
อันนี้กะเป็นลูบกบเนาะ เบิ่งลักสะนะแล้วกะลูบกบ
กบโตสีเขียวพ้อมเด่ะ โตสีเขียว มีโตเดียวข้อหล้อ อยู่ในพาบ ในสะหมุดเหล้มนี้เนาะ อาดสิเป็นสะหมุดวาดพาบเนาะ เขากำลังวาดพาบ หลือว่าละบายสี
เพื่อที่สิให้ อาดสิเป็นเอาไว้ถ้าเด็กน้อยเบิ่ง หลือว่าอาดสิเป็นกานวาดพาบให้เจ้าของ เป็นเวลาว้างของเจ้าของเนาะ

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง อันนี้เขากะกำลังวาดลูบ หลือว่าละบายสีลูบพาบอยู่เนาะ
มือหนึ่งกะจับสี กำลังละบายๆๆ สีอยู่ในสะหมุดวาดพาบเหล้มนี้เนาะ
แล้ว[เขา]กำลังวาดลูบอี่หยัง อันนี้เบิ่งลักสะนะท่าทาง หลือว่าเบิ่งซงแล้วอาดสิเป็นลูบวัดเนาะ
เป็นวัดเป็นโบดเนาะ อันบักใหญ่หนึ่ง โบดบักใหญ่งามซ้ำแมะ

Basic vocabulary — Page 33 — Series B, pictures 09-10: Where is? What time is it?


9
เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เขากำลังคุยกัน หลือว่ากำลังเว้ากัน
ในลูบพาบนั้นพุซายกำลังถามพุหญิงว่า โลงบานอยู่ใสคับ แถวนี้มีโลงบานบ่คับ ฮู้จักโลงบานบ่คับ ว่าโลงบานอยู่ใสคับ
พุหญิงอาดสิตอบว่า ฮู้จักอยู่จ้า โลงบานไปทางพุ้นจ้า โลงบานไปทางพี้จ้า โลงบานอยู่บ่ไกจากนี้ดอกจ้า
โลงบานอยู่ข้างหน้าเด้อจ้า โลงบานญ่างไปทางพุ้นเด้อจ้า
แล้วแต่ว่าเขาสิตอบแบบใด หลือว่าแล้วแต่ว่าพุหญิงสิตอบแบบใด ขั้นฮู้ว่าไปทางซ้าย กะตอบว่าทางซ้าย ขั้นฮู้ว่าไปทางขวา กะตอบไปทางขวาเนาะ
ขั้นฮู้ว่าต้องไปทางพุ้น ทางพี้ ทางนั้น กะอะทิบายให้เพิ่น กะเว้าให้เพิ่นฟังว่า ต้องไปจั่งซั้นจั่งซี้เนาะ

10
มีคนสองคน เขากำลังเฮ็ดหญังกัน มีพุหญิงกับพุซาย เบิ่งซงแล้ว พุซายอาดสิอยากฮู้เวลาว่ามันจักโมงแล้ว
อาดสิถามพุหญิงว่า ตอนนี้จักโมงแล้วคับ ตอนนี้จักโมงแล้วน้อ ฮู้จักเวลาบ่คับว่าตอนนี้จักโมงแล้ว ตอนนี้เวลาเท่าใดแล้วคับ ฮู้จักบ่คับ
อันนี้กะเป็นคำเว้าของคนที่ถาม อาดสิใส่ค้าหลือว่าใส่คับกะได้
แล้วกะคนตอบ อาดสิตอบไปว่า ตอนนี้เวลาเท่านั้นเท่านี้ สิบโมงแล้วจ้า เที่ยงแล้วจ้า ทุ้มหนึ่งแล้วจ้า หกโมงเซ้า เจ็ดโมงเซ้า หลือว่าเท่าใด แล้วแต่เวลาว่าตอนนั้นเท่าใดกะตอบไปตามเวลาเท่านั้น
เที่ยงกะตอบเที่ยง บ่ายกะตอบบ่าย ห้าโมงกะตอบห้าโมงเนาะ ว่าตอนนั้นจักโมงแล้ว เฮากะตอบไปตามที่เขาถามมาเนาะ

Basic vocabulary — Page 25 — Series B, pictures 05-07: picture, camera, to take a picture


5
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นลูบพาบ เป็นพาบถ่าย หลือว่าลูบพาบถ่ายนั้นหละ
แล้วลูบพาบถ่ายมันเกิดจากอี่หยัง กะเกิดจากคนนี้หละ คนไปถ่ายลูบ
อยากได้ลูบใด อยากได้พาบใด กะถ่ายเอาใซ้ก้องถ่าย ถ่ายหม้องนั้น กะได้ลูบนั้น ถ่ายหม้องนี้ กะได้ลูบนี้ แล้วแต่เฮาสิถ่ายพาบใด ลูบใด หม้องใด มันกะสิได้พาบนั้นออกมา
อย่างเซ้นว่าอยากได้ลูบคนพุนั้น กะถ่ายลูบคนพุนั้น ลูบคนพุนั้นกะสิมาอยู่ในลูบพาบหลือว่าลูบถ่าย คือจั่งโตอย่างนี้หละ
แล้วตอนนี้ลูบนี้มันมีจักพาบ ลูบนี้มันกะมีอยู่สามพาบ มีลูบคนลูบหนึ่ง แล้วกะลูบทัมมะซาดอีกสองลูบ ที่เฮาเห็นอยู่ตอนนี้เนาะ

6
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นก้อง เป็นก้องถ่ายลูบ หลือว่าเป็นก้องถ่ายวิดีโอ
ก้องอันนี้กะมีปะโยดหลาย ขั้นเฮาอยากถ่ายลูบอันนั้นลูบอันนี้ เฮากะสามาดถ่ายได้ หลือว่าถ่ายวิดีโอกะได้ เฮาอยากได้แบบใด เฮากะถ่ายเอา เลียกเอา หลือว่ากดปุ่มถ่ายเอาโลด
ก้องนี้มันลาคาแพงบ่ กะแพงอยู่ แพงคักอี่หลี แพงส่ำกับโทละทัดพุ้นแหล้ว

7
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังถ่ายลูบ มีพุซายพุหนึ่ง เขากำลังถ่ายลูบอยู่
เขาใซ้มือของเขานั้นหละ มือสองข้างของเขานั้นหละ เทิงข้างซ้ายข้างขวาจับพ้อมกัน กำลังจับก้องอยู่ กำลังสิถ่ายลูบพุ้นแหล้ว
จักว่าเขาสิถ่ายอี่หยังแล้วเฮาบ่ฮู้เนาะ ฮู้แต่ว่าเขากำลังถ่ายลูบอยู่
กานถ่ายลูบหนิต้องถ่ายจักคน ถ่ายพุเดียวกะได้ จับก้องขึ้นมา แล้วกะถ่ายกดแชะๆๆๆ แล้วกะแล้ว บ่จำเป็นต้องใซ้หลายคน ถ่ายพุเดียวแล้วกะแล้ว

BCF01 Greetings and leave takings (informal) — Description


ลูบพาบนี้กะสิเฮ็ดให้เฮาฮู้จักว่า อันนี้เป็นกานสนทะนากัน หลือกานเว้ากันของเด็กน้อยของคนอี่สานที่ฮู้จักกัน กะสิสมมุดว่า มีคนสองคนที่ฮู้จักกัน เขามาพ้อกัน อยู่หม้องใดหม้องหนึ่ง เขาได้เอิ้นใส่กัน เขาได้ทักทายกัน พุซายแนมเห็นพุหญิงพุนั้น กะเลยได้เอิ้นถามว่า

เฮ้ย มึงมาแต่ใส
มึงมาเฮ็ดหญัง
มึงสิไปใส

พุซายกะสิได้ฮ้องถามปะมานนี้ พุหญิงได้ญินแล้ว กะสิได้ตอบกับไปว่า

มาตะหลาด
มาเฮ็ดทุละ
มาหาแม่
มาหาพ่อ
สิไปบ้าน
สิไปโลงบาน
สิไปนั้น สิไปนี้ แล้วแต่

เฮาสามาดตอบกับไปได้ เขาถามอี่หยังเฮามา เฮากะตอบไปแบบนั้น

หลือคำเว้าที่เขาถามเฮามา เฮาสามาดถามเขากะได้อีกคือกัน เขาถามเฮาว่า เฮาสิไปใส เฮามาหญัง เฮามาเฮ็ดหญัง เฮากะสามาดถามเขาไปได้คือกันว่า มึงมาหญัง มึงมาเฮ็ดหญัง มึงสิไปใส มึงมาแต่ใส ขั้นเขาได้ญิน เขากะสิตอบเฮาว่าจั่งซั้นว่าจั่งซี้คือกัน

พอเด็กน้อยสองคนนี้ได้เว้ากันโดนเติบ ได้พ้อกันโดนเติบ เขากะสิได้จากกัน พุหญิงกะสิไปทางหนึ่ง พุซายกะสิไปอีกทางหนึ่ง พุหญิงกะเลยเว้าขึ้นว่า

เออกูฟ้าว กูสิฟ้าวไปหาแม่กู กูไปก่อนเด้อ

พอพุซายได้ญินแล้ว พุซายกะเลยเว้าขึ้นว่า

เออกูกะฟ้าวคือกัน กูกะสิฟ้าวไปเฮ็ดทุละคือกัน ส่ำนี้หละ ไบบ่าย

พอเว้ากันเส็ด สองคนนี้กะได้จากกัน กะได้ต่างคนต่างไป

กานเว้าของเด็กน้อยของคนอี่สาน เป็นคำเว้าที่บ่สุพาบ แต่มันกะเป็นวัดทะนะทัม หลือคำเว้าคำจาของเด็กน้อยของคนอี่สาน เป็นคำเว้า กูมึงเป็นคำเว้าที่บ่สุพาบ บ่ม่วน บ่ไพเลาะ แต่คำเว้านี้กะสามาดเว้ากับหมู่ เว้ากับพวก เว้ากับน้อง เว้ากับคนที่เฮาฮู้จักในวัยเดียวกัน เฮาบ่สามาดเว้ากับพุใหญ่หลือคนที่มีอายุกว่าเฮาได้

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 01-03: to hang, picture, monkey, branch, socks


1
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาพาบไปห้อย
พาบอี่หยัง เป็นลูบพาบวาด หลือว่าพาบถ่ายนี้หละ เป็นกอบสี่เหลี่ยม
เขาสิเอาไปห้อยเฮ็ดหญัง เขากะสิห้อยไว้ฝาผะหนัง หลือว่าห้อยไว้ถ้าโซ ไว้ถ้าเบิ่ง
เขาห้อยไว้ใสเกาะ ห้อยไว้ฝาผะหนัง ติดกับฝาผะหนังหละ
แล้วเขาห้อยจั่งใด กะสิมีเซียกติดอยู่กอบลูบ หลือว่าหม้องพาบวาด แล้วกะไปห้อยใซ้ตะปู ตะปูที่มันตอกลงไปในฝาผะหนัง เขากะสิเอาตะปูหนั้นหละ ตะปูดอกหนึ่งตอกลงไปในฝาผะหนัง แล้วแต่ว่าเฮาสิตอกอยู่หม้องใด เอาไว้จุดใด เฮากะตอกตะปูลงไปหม้องนั้น แล้วเฮากะเอาพาบอันนี้ไปห้อยอยู่หม้องตะปูหม้องนั้น หลือว่าไปห้อยอยู่หม้องข้างฝาหม้องนั้น

2
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นสัด เขาเอิ้นว่าลิง มันเป็นลิง
ลิงกำลังเฮ็ดหญังอยู่ มันกำลังห้อยอยู่ ห้อยอยู่เทิงง่าไม้ อยู่เทิงกิ่งไม้หนั้นหละ
กิ่งไม้กิ่งใหญ่บ่ บ่ใหญ่ปานใดดอก
เอ๊า แล้วเป็นหญังลิงคือไปห้อยอยู่หนั้น กะจักคือกัน มันอาดสิมักอยู่เทิงกกไม้กะได้ มันกะเลยห้อยอยู่เทิงกกไม้ หลือว่าห้อยอยู่เทิงง่าไม้
ในโตของลิงมันมีอี่หยังแน่ มันกะสิมีแขน มีขา มีแขนสองข้าง มีขาสองข้าง มีหางพ้อม มีขนพ้อม ลิงซู่โตสิมีขนหลายพ้อม เกียบซู่จุดหลือว่าซู่หม้องอยู่ในโตมันเอาโลด
แล้วลิงอันนี้โตสีหญัง อันนี้ลิงโตนี้มันสีส้ม
แล้วลิงโตอื่นสีอื่นได้บ่ ได้อยู่ แล้วแต่ลิงพันนั้นหลือว่าลักสะนะนั้น มันกะสิแตกต่างกันไป บ่คือกัน
แล้วลิงมันอาสัยอยู่ใส มันกะอยู่ในป่า อยู่ในป่าในดงในโคกพุ้นหละ
ลังเที่ยคนกะจับมันเอาไว้ในสวนสัด หลือว่าเอามันมาเลี้ยงอยู่บ้าน

3
อันนี้อี่หยัง อันนี้เป็นถุงเท้า เขากำลังตากถุงเท้าอยู่
ถุงเท้ามีจักกิ่ง มีหกกิ่ง
กะอาดสิมัน อาดสิสกกะปก หลือว่ามันเปี้ยน เขากะเอามาซักเพื่อที่สิให้มันสะอาด ให้มันหอมเนาะ เพื่อที่สิใซ้งานต่อไปในมื้อใหม่
แล้วเขาตากอยู่ใส กะตากอยู่กางแก้ง หลือว่าตากอยู่หม้องมันมีแดด ให้แดดส่อง ขั้นแดดถืก หลือว่ามันตากใส่แดด มันกะสิแห้ง หลือว่าเฮ็ดให้มันบ่เหม็นอับเนาะ ขั้นมันบ่มีแดด มันกะสิเหม็นอับ หลือว่าเหม็นตากบ่แห้งนั้นเองเนาะ

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ