Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling
Isaan | Pronunciation | Tones | Thai | English/Notes | #occ |
---|---|---|---|---|---|
สมมุด | som-mut | M-H | สมมุติ | to assume, to suppose | 5/4 |
Link to overview page
Link to dictionary
Basic vocabulary — Page 31 — Series B, pictures 11-13: to dream, cat, fish, dog, bone, girl, school
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแมว แมวโตหนึ่งนั้นหละ
มันกำลังนอนหลับซ้ำแมะ กำลังนอนหลับแซบๆ อยู่พุ้นหนะ นอนโตเดียวของมันข้อหล้อนั้นหละ
หลับตา งับปากพ้อมพุ้นแหล้ว นอนหลับ อุ้ย นอนหลับแซบคักแซบแน่เนาะ
กำลังฝันพ้อมพุ้นแหล้ว มันกำลังฝันฮอดปาโตหนึ่ง
มันกำลังฝันเห็นปาโตหนึ่ง
คือแบบว่ากำลังสิหิวเข้าพอดีนั้นหละ ว่ากำลังสิคิดพ้ออยากกินเข้า กะเลยฝันเห็นฮอดปาพอดี กำลังอยากได้กินปาพุ้นหละเนาะ
แล้วความฝันเนี้ย ขั้นเฮาฝันพ้อปา เฮาสิได้กินปาอี่หลีบ่ กะบ่ ความฝันมันเป็นสิ่งที่มันจินตะนาขึ้น จินตะนากานขึ้น หลือว่ามันเป็นแค่ความคิดที่มัน ที่เฮานอนหลับ แล้วเฮาคิดขึ้นเอง หลือว่าความคิดมัน เป็นสิ่งที่มันคิดขึ้นเอง เฮาบ่สามาดเห็นโตแท้ของจิงๆ ที่เฮา ของแท้ๆ ที่เฮาฝันฮอดหลือว่าฝันเห็นได้เนาะ
12
อันนี้คืออี่หยัง กะเป็นหมาเนาะ มีหมาโตหนึ่ง หมาโตสีเทาเนาะ กำลังนอนหลับอยู่
คือสินอนหลับแซบหลับนัวคัก เหลียวเบิ่ง ฝันเห็นฮอดกะดูกพ้อม กะดูกอันบักใหญ่พุ้นแหล้ว ฝันเห็นฮอดกะดูก
แล้วหมาโตนี้กำลังฝันเห็นกะดูก มันสิได้กินกะดูกแท้ๆ บ่ กะบ่เนาะ เพาะว่ามันเป็นแค่ความฝัน มันเป็นแค่เลี่ยงที่มันสมมุดขึ้น หลือว่าเลี่ยงที่มันจินตะนาขึ้น จินตะนากานขึ้น ในความฝันของเฮาซื่อๆ เนาะ
13
อันนี้คืออี่หยัง กะมีพุหญิงพุหนึ่งเนาะ กำลังนอนหลับอยู่
นอนหลับอยู่เทิงเตียงนอนพุ้นแหล้ว ห่มผ้าพ้อม หมุนหมอนพ้อม หมอนกะสีเหลียง ผ้าห่มกะสีฟ้า กำลังนอนอยู่เทิงเตียงนอนเนาะ
กำลังฝันพ้อมพุ้นแหล้ว คือสินอนหลับแซบคัก ฝันบ่ฮู้อีโหน้อีเหน้เนาะ ฝันฮอดโลงเลียน
อาดสิว่าเขากำลังอยากไปโลงเลียนพอดี กำลังสิได้ไปโลงเลียน แล้วกะฝันฮอดบางสิ่งบางอย่างนั้น
แต่ว่าความฝันหนิ บางสิ่งเนาะ ขั้นเฮาได้พ้อใน พ้อเลี่ยงใดเลี่ยงหนึ่ง หลือว่าพ้อเลี่ยงนั้นดุๆ หลือว่าคิดฮอดเลี่ยงนั้นดุๆ หลือว่าเว้าฮอดเลี่ยงที่เลี่ยงบางเลี่ยงดุๆ เฮาอาดสิเก็บมาฝันหลือว่าเก็บมาคิดกะได้เนาะ
Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 06-07: ring, gold, to put on
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแหวน
เป็นแหวนทอง แหวนสีทองพ้อม เบิ่งลักสะนะแล้วกะอาดสิเป็นแหวนทองเลยเนาะ
แล้วแหวนทองนี้มีลาคาแพงบ่ กะแพงอยู่ กะแพงเติบเนาะ กะบ่แพงปานใด กะแล้วแต่ เขาเอิ้นว่าหญังเกาะ น้ำหนักทอง ลูบแบบทอง ขั้นน้ำหนักหลายกะแพง น้ำหนักหน้อยกะบ่แพง
ตอนนี้เนาะกะอาดสิแบบว่า บาทหนึ่ง เขาเอิ้นว่าบาทหนึ่ง กะสิลาคาอยู่ปะมานสองหมื่นบาทเนาะ
น้อยกว่าบาทหนึ่งกะสิมีสามสะหลึง สองสะหลึง แล้วกะหนึ่งสะหลึง แล้วกะเคิ่งสะหลึงเนาะ กะสิตามลาคาลงไป
เคิ่งบาทหลือว่าสองสะหลึงกะสิอาดปะมานหมื่นหนึ่ง สามสะหลึงกะสิปะมานหมื่นห้า ปะมานนั้นเนาะ ลาคาแล้วแต่ปะลิมาน แล้วแต่จำนวนของทองมันเนาะ
ทองหนิกะสิเป็นลาคาที่บ่แพงส่ำเพ็ด ขั้นเพ็ดกะสิลาคาแพงไปอีกลาคาหนึ่ง ทองกะสิลาคาพอปะมานที่เว้าไปเนาะ
7
เขากำลังเฮ็ดหญัง เบิ่งจากลักสะนะแล้วเขากำลังใส่แหวน ใส่แหวนทอง
กะสิมีมือพุหนึ่ง จับแหวน กำลังสิใส่ หลือว่าอาดสิเป็นมือของเขาเทิงสองข้าง อาดสิเป็นพุเดียวกัน กำลังใส่แหวนไปอีกข้างหนึ่งของเขาเนาะ
อาดสิเป็นฝั่งขวากำลังใส่แหวน แล้วอีกมือข้างซ้ายกำลังสิสุบแหวนไปใส่มือข้างขวา
เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้วใด เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้ว นิ้วนางเนาะ เขาเอิ้นว่านิ้วนาง คนกะสิมีห้านิ้ว มีนิ้วโป้ นิ้วซี้ นิ้วกาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เนาะ
กานใส่แหวนกะสิมีกานบ่งบอกถึงสองลักสะนะ หลือว่าสองวิทีนำกันเนาะ ขั้นเขาใส่แหวนอยู่นิ้วนางกะสิหมายถึงว่าเป็นกานหมั้น หมั้นที่สิก่อนแต่งงาน ขั้นสมมุดว่ามีผัวเมีย สองคนเนาะ กำลังสิแต่งงานกัน แต่ว่าบ่ทันได้แต่ง หมั้นกันก่อน เพื่อที่ว่าสิไปแต่งงาน แต่ว่าในตอนนี้คือหมั้นกันก่อน กะสิใส่แหวนอยู่นิ้วนางเนาะ
แต่ว่าขั้นมื้อใดสองคนนี้อยากสิแต่งงานกัน อีกสองสามเดียนไปข้างหน้า ปากดว่าฮอดมื้อสองสามเดียนนั้นแล้ว สิแต่งงานกัน สมมุดว่าฮอดมื้อนี้ปึ่บ สิแต่งงานกันมื้อนี้ กะสิใส่แหวนนิ้วก้อย อันนั้นกะสิหมายถึงว่าขั้นแต่งงานกันกะใส่แหวนนิ้วก้อย ขั้นหมั้นกันให้ใส่แหวนนิ้วนาง
BCF01 Greetings and leave takings (informal) — Description
— เฮ้ย มึงมาแต่ใส
— มึงมาเฮ็ดหญัง
— มึงสิไปใส
พุซายกะสิได้ฮ้องถามปะมานนี้ พุหญิงได้ญินแล้ว กะสิได้ตอบกับไปว่า
— มาตะหลาด
— มาเฮ็ดทุละ
— มาหาแม่
— มาหาพ่อ
— สิไปบ้าน
— สิไปโลงบาน
— สิไปนั้น สิไปนี้ แล้วแต่
เฮาสามาดตอบกับไปได้ เขาถามอี่หยังเฮามา เฮากะตอบไปแบบนั้น
หลือคำเว้าที่เขาถามเฮามา เฮาสามาดถามเขากะได้อีกคือกัน เขาถามเฮาว่า เฮาสิไปใส เฮามาหญัง เฮามาเฮ็ดหญัง เฮากะสามาดถามเขาไปได้คือกันว่า มึงมาหญัง มึงมาเฮ็ดหญัง มึงสิไปใส มึงมาแต่ใส ขั้นเขาได้ญิน เขากะสิตอบเฮาว่าจั่งซั้นว่าจั่งซี้คือกัน
พอเด็กน้อยสองคนนี้ได้เว้ากันโดนเติบ ได้พ้อกันโดนเติบ เขากะสิได้จากกัน พุหญิงกะสิไปทางหนึ่ง พุซายกะสิไปอีกทางหนึ่ง พุหญิงกะเลยเว้าขึ้นว่า
— เออๆ กูฟ้าว กูสิฟ้าวไปหาแม่กู กูไปก่อนเด้อ
พอพุซายได้ญินแล้ว พุซายกะเลยเว้าขึ้นว่า
— เออๆ กูกะฟ้าวคือกัน กูกะสิฟ้าวไปเฮ็ดทุละคือกัน ส่ำนี้หละ ไบบ่าย
พอเว้ากันเส็ด สองคนนี้กะได้จากกัน กะได้ต่างคนต่างไป
กานเว้าของเด็กน้อยของคนอี่สาน เป็นคำเว้าที่บ่สุพาบ แต่มันกะเป็นวัดทะนะทัม หลือคำเว้าคำจาของเด็กน้อยของคนอี่สาน เป็นคำเว้า กูๆ มึงๆ เป็นคำเว้าที่บ่สุพาบ บ่ม่วน บ่ไพเลาะ แต่คำเว้านี้กะสามาดเว้ากับหมู่ เว้ากับพวก เว้ากับน้อง เว้ากับคนที่เฮาฮู้จักในวัยเดียวกัน เฮาบ่สามาดเว้ากับพุใหญ่หลือคนที่มีอายุกว่าเฮาได้
Basic vocabulary — Page 03 — Series B, pictures 12-17: book, book shelf, to take, to open, to read, to close, to put away
นี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นหนังสือ หนังสือเหล้มบักใหญ่หนึ่ง เหล้มสีเขียว หนาตึ่บเอาโลด
หนังสือมีไว้เฮ็ดหญัง หนังสือกะมีไว้ถ้าอ่าน เอาไว้ถ้าให้ความลู้ ขั้นเฮาเปิดเบิ่งหนังสืออันนั้น หลือว่าเปิดอ่านหนังสืออันนั้น เฮากะสิมีความลู้เกี่ยวกับความลู้ที่มันมีอยู่ในหนังสืออันนั้น
แล้วหนังสือกะมีแนวขั้นหนังสือพ้อม สีแดงๆ นั้นหละ เอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ สมมุดว่าเฮาอ่านฮอดหน้านั้นๆ แล้ว เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือขั้นไว้ ญามแบบว่าเฮาเซาอ่านแล้ว หลือว่าอ่านฮอดหน้านั้น แล้วเฮาสิพักเบก หลือว่าบ่อยากอ่านอีกแล้ว สิกับมาอ่านมื้อใหม่ เฮากะเอาแนวขั้นหนังสือนั้นมาขั้นไว้ แล้วพอมื้อหลังเฮามาอ่าน เฮากะสิฮู้แล้วว่า เฮาฮอดหม้องนั้นแล้ว เฮาต้องอ่านต่อหม้องนั้น แล้วเฮากะเปิดหม้องที่เฮาขั้นไว้นั้นหละ เอาแนวขั้นสีแดงๆ นั้นหละขั้นไว้ อันนี้กะคือขั้นแนวขั้นหนังสือ
13
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิเอาหนังสือ
เอาหนังสืออยู่ใส กะเอาหนังสืออยู่ในซั้นวางหนังสือ
เขาสิเอาหนังสือไปหญัง เขากะอาดสิเอาหนังสือนั้นไปอ่าน เขากะเลยสิเอาหนังสือนั้นไป
หนังสืออยู่เทิงซั้นนั้นมีจักเหล้ม กะมีหลายเหล้มอยู่ มีห้าหกเหล้มพุ้นหนะ เทิงสีซมพู สีเขียว สีแดง สีเหลียง สีฟ้า หลายเหล้มอี่หลีวางเฮียงกันอยู่
14
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิอ่านหนังสือ เขากะเลยเปิดหนังสือ
เขาเปิดหนังสือจักเหล้ม เปิดเหล้มเดียว เปิดเหล้มเดียวข้อหล้อ เหล้มสีเขียว มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง มือข้างหนึ่งกะเปิดไปอีกฝั่งหนึ่ง
แล้วอี่หยังอยู่ตงกางหนังสือนั้นสีแดงๆ อันนั้นกะเป็นแนวขั้นหนังสือ เป็นแนวขั้นหนังสือเพื่อที่ว่าสิเอาไว้ถ้าขั้นหนังสือ ขั้นหน้านั้น ขั้นหน้านี้
15
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังอ่านหนังสือ
เขาอ่านหนังสืออยู่กับใผ เขาอ่านหนังสืออยู่พุเดียวของเขานั้นหละ เขาอ่านอยู่พุเดียว
แล้วเขาอ่านหนังสืออยู่ใส เขาอาดสิอ่านอยู่โลงเลียน อาดสิอ่านอยู่บ้าน หลือว่าอาดสิอ่านอยู่ห้องสะหมุดกะได้
เขาอ่านหนังสือจักเหล้ม เขากะอาดสิอ่านหนังสือเหล้มเดียว เพาะว่าเฮาเห็นเขาจับหนังสืออยู่เหล้มเดียว บ่ได้มีหลายเหล้ม
16
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังปิดหนังสือ เขาพุนี้กำลังปิดหนังสือ
เขาปิดหนังสือเฮ็ดหญัง เขากะอาดสิบ่อ่านแล้ว หลือว่าอาดสิเซาอ่านแล้ว เขากะเลยปิดหนังสือไว้ เพื่อที่ว่าอาดสิเอาไปเก็บ หลือว่าเอาไปเมี้ยนหม้องที่เขาเอามา
17
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ
เป็นหญังเขาคือเอาหนังสือไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ กะเพื่อว่าสิให้มันเป็นเลียบล้อย เป็นละเบียบเลียบล้อย เขากะเลยสิเอาไปเก็บไว้ซั้นวางหนังสือ เพื่อที่ว่าสิให้มันเบิ่งงาม หลือว่าเป็นละเบียบคือเก่า
ขั้นเขาเอาหนังสือออกมาแล้ว บ่ไปเก็บไว้หม้องเก่า คนอื่นที่เขาสิมาเบิ่ง หลือว่าอาดสิเอามาอ่าน เขากะหาเหล้มนั้นบ่พ้อ หาเหล้มนี้บ่พ้อ เพาะว่าคนที่เอาไปอ่านนั้น บ่มาเก็บไว้หม้องเก่า เอาไปอ่านแล้วกะเอาไปถิ้มไว้หม้องอื่น เอาไปวางไว้หม้องอื่น คนอื่นกะบ่สามาดหาเหล้มหนังสือนี้ได้