Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
เดียน di:an M เดือน month
Notes: pronunciation: also realized as เดือน, in particular before the names of months
41/4

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — page 19 — Series A, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11 นี้คือปะติทิน
12 ปะติทินบอกมื้อเจ็ดมื้อ
13 ปะติทินบอกเดียน เดียนหนึ่ง มีสามสิบเอ็ดมื้อ
14 ปะติทินบอกปี มีสิบสองเดียน

Basic vocabulary — Page 28 — Series B, pictures 18-20: warm/hot, just right, cold, degree


18
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เบิ่งแล้วกะสิเป็นหน้าฮ้อน หลือว่าลึดูฮ้อนเนาะ
อาดสิเป็นลึดูแล้งลึดูฮ้อนเนาะ เพาะว่าเบิ่งองสามาแล้วกะสูงเติบ ตั้งสี่สิบองสา
เบิ่งลักสะนะ เบิ่งซงแล้วฮ้อนคัก ฮ้อนคักอี่หลี
สำหลับอยู่พากอี่สานกะสิฮ้อนเติบเนาะ สี่สิบองสาหนิกะสิเฮ็ดให้ผิวไหม้ได้จักหน่อยพุ้นแหล้ว ขั้นตากแดดหลายเนาะ
แล้วหน้าฮ้อนหนิกะสิอยู่ปะมานเดียนมีนาเมสาไปเนาะ กะสิไปเลี้ยยๆ แล้วแต่มันสิฮ้อน ฮอดใส หน้าฮ้อนหลือว่าหน้าแล้ง กะสิอยู่ซ้วงปะมานนี้เนาะขึ้นไป หลือว่าจาก เลิ้มจากเดียนนี้ขึ้นไปเนาะ

19
อันนี้เป็นจั่งใด อากาดเป็นจั่งใด อันนี้กะสิเป็น อาดสิอากาดบ่ฮ้อนหลาย บ่หนาวหลาย
ปะมานจักองสาหละหนิ ปะมานยี้สิบห้าองสาเนาะ กะบ่ถือว่าฮ้อนหลายหนาวหลาย อากาดกะสิพอดี
แต่ว่าสำหลับคนอี่สานหลือว่าคนไทยแล้วกะ ขั้นยี้บห้าองสากะสิหนาวน้อยเย็นน้อยเนาะ บ่ฮ้อนหลาย อากาดกำลังเย็น

20
อันนี้อากาดเป็นจั่งใด ตอนนี้อากาดกะซงหนาวหลาย
สำหลับคนไทยหลือว่าคนอี่สานเนาะ อากาดแบบนี้หนาวคัก เพาะว่าสิบองสานี้คือหนาวโพดโพ หนาวคัก หนาวแน่ หนาวอี่หลี
ทุกคนต้องห่มผ้า หลือว่าใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต ซ้อนกันหลายโตเนาะ
ขั้นเป็นหน้าหนาวในพากอี่สาน กานที่ทุกคนสิได้เฮ็ดกะคือ ตั้งไฟ ตั้งไฟ หลือว่าจุดไฟ หลือว่าก่อกองไฟ แล้วกะมานั่งล่วมกัน หลือว่าอาดสินั่งอยู่พุเดียวกะได้
แล้วกะไปนั่งฝิงไฟ หลือว่านั่งข้างกองไฟ เพื่อที่ว่าสิให้มันเกิดความฮ้อนในโต บ่ให้มันหนาวคัก บ่ให้มันหนาวหลาย
แล้วบางคนกะสิใส่เสี้ยแขนญาวหลายโต หลือว่าสามสี่โต ห้าโต แล้วแต่คนสิใส่เนาะ เพาะว่ามันหนาวหลายคัก
ต้องเฮ็ดให้โตเจ้าของอบอุ่น หลือว่าบ่ให้มันเย็น บ่ให้มันหนาวหลายเนาะ

Basic vocabulary — Page 29 — Series B, pictures 06-07: ring, gold, to put on


6
อันนี้คืออี่หยัง อันนี้เป็นแหวน
เป็นแหวนทอง แหวนสีทองพ้อม เบิ่งลักสะนะแล้วกะอาดสิเป็นแหวนทองเลยเนาะ
แล้วแหวนทองนี้มีลาคาแพงบ่ กะแพงอยู่ กะแพงเติบเนาะ กะบ่แพงปานใด กะแล้วแต่ เขาเอิ้นว่าหญังเกาะ น้ำหนักทอง ลูบแบบทอง ขั้นน้ำหนักหลายกะแพง น้ำหนักหน้อยกะบ่แพง
ตอนนี้เนาะกะอาดสิแบบว่า บาทหนึ่ง เขาเอิ้นว่าบาทหนึ่ง กะสิลาคาอยู่ปะมานสองหมื่นบาทเนาะ
น้อยกว่าบาทหนึ่งกะสิมีสามสะหลึง สองสะหลึง แล้วกะหนึ่งสะหลึง แล้วกะเคิ่งสะหลึงเนาะ กะสิตามลาคาลงไป
เคิ่งบาทหลือว่าสองสะหลึงกะสิอาดปะมานหมื่นหนึ่ง สามสะหลึงกะสิปะมานหมื่นห้า ปะมานนั้นเนาะ ลาคาแล้วแต่ปะลิมาน แล้วแต่จำนวนของทองมันเนาะ
ทองหนิกะสิเป็นลาคาที่บ่แพงส่ำเพ็ด ขั้นเพ็ดกะสิลาคาแพงไปอีกลาคาหนึ่ง ทองกะสิลาคาพอปะมานที่เว้าไปเนาะ

7
เขากำลังเฮ็ดหญัง เบิ่งจากลักสะนะแล้วเขากำลังใส่แหวน ใส่แหวนทอง
กะสิมีมือพุหนึ่ง จับแหวน กำลังสิใส่ หลือว่าอาดสิเป็นมือของเขาเทิงสองข้าง อาดสิเป็นพุเดียวกัน กำลังใส่แหวนไปอีกข้างหนึ่งของเขาเนาะ
อาดสิเป็นฝั่งขวากำลังใส่แหวน แล้วอีกมือข้างซ้ายกำลังสิสุบแหวนไปใส่มือข้างขวา
เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้วใด เขาใส่แหวนเข้าไปในนิ้ว นิ้วนางเนาะ เขาเอิ้นว่านิ้วนาง คนกะสิมีห้านิ้ว มีนิ้วโป้ นิ้วซี้ นิ้วกาง นิ้วนาง นิ้วก้อย เนาะ
กานใส่แหวนกะสิมีกานบ่งบอกถึงสองลักสะนะ หลือว่าสองวิทีนำกันเนาะ ขั้นเขาใส่แหวนอยู่นิ้วนางกะสิหมายถึงว่าเป็นกานหมั้น หมั้นที่สิก่อนแต่งงาน ขั้นสมมุดว่ามีผัวเมีย สองคนเนาะ กำลังสิแต่งงานกัน แต่ว่าบ่ทันได้แต่ง หมั้นกันก่อน เพื่อที่ว่าสิไปแต่งงาน แต่ว่าในตอนนี้คือหมั้นกันก่อน กะสิใส่แหวนอยู่นิ้วนางเนาะ
แต่ว่าขั้นมื้อใดสองคนนี้อยากสิแต่งงานกัน อีกสองสามเดียนไปข้างหน้า ปากดว่าฮอดมื้อสองสามเดียนนั้นแล้ว สิแต่งงานกัน สมมุดว่าฮอดมื้อนี้ปึ่บ สิแต่งงานกันมื้อนี้ กะสิใส่แหวนนิ้วก้อย อันนั้นกะสิหมายถึงว่าขั้นแต่งงานกันกะใส่แหวนนิ้วก้อย ขั้นหมั้นกันให้ใส่แหวนนิ้วนาง

Basic vocabulary — page 19 — Series B, pictures 11-14: calendar, day, week, month, year


11
นี้คืออี่หยัง นี้คือปะติทิน อันนี้เป็นปะติทิน บอกมื้อ บอกวัน บอกเวลา หลือบอกเดียนบอกปีนั้นหละ
แต่ว่าในปะติทินนี้มีบอกสามมื้อหนึ่ง มีบอกวันที่สิบ แล้วกะบอกวันที่สิบเอ็ด แล้วกะบอกวันที่สิบสอง มีบอกสามมื้อ เฮาเห็นสามมื้อนั้นหละ

12
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้กะเป็นปะติทิน
เป็นปะติทินบอกมื้อ ตอนนี้เฮาเห็นปะติทินบอกเจ็ดมื้อหนึ่ง บอกบ่หลาย เห็นแค่เจ็ดมื้อ
มีวันที่สิบเอ็ด สิบสอง สิบสาม แล้วกะสิบสี่ สิบห้า สิบหก แล้วกะสิบเจ็ด
มีเจ็ดมื้อหนึ่ง เอิ้นง่ายว่ามีอาทิดหนึ่ง อาทิดหนึ่งมีเจ็ดมื้อ
ในอาทิดหนึ่งกะสิมีเจ็ดมื้อ กะสิมีวันจัน วันอังคาน วันพุด วันพะลึหัด วันสุก วันเสา แล้วกะวันอาทิด
กะมีเจ็ดมื้อ ลวมกันกะเป็นอาทิดหนึ่ง หลือเจ็ดมื้อนั้นหละ

13
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทินคือกัน อันนี้ปะติทินบอกเดียน อันนี้กะเป็นปะติทิน ปะติทินบอกเดียน
อันนี้มีเดียนหนึ่ง แล้วแต่เดียน อันนี้บ่ฮู้ว่าเป็นเดียนอี่หยัง แต่ว่าในเดียนนี้มีสามสิบเอ็ดมื้อ
บางเดียนกะมีสามสิบมื้อ บางเดียนกะมียี้บเก้ามื้อ แล้วแต่ เดียนกุมพาพันกะสิมียี้บเก้ามื้อ
ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย คม กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ ขั้นเดียนใดที่ลงท้ายด้วย ย๊น กะสิมีสามสิบมื้อ
แต่ว่าในเดียนนี้ที่เขาบอก[อยู่]ในลูบพาบนี้ กะสิมีสามสิบเอ็ดมื้อ เดียนนี้กะอาดสิลงท้ายด้วย คม

14
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะเป็นปะติทิน เป็นปะติทินคือเก่านั้นหละ แต่ว่าปะติทินอันนี้เป็นปะติทินบอกปี บอกปี
ปีหนึ่งกะสิมีสิบสองเดียน อันนี้เป็นบอกปี ปีสองพันห้าล้อยห้าสิบเก้า
หลือบอกคอสอ ขั้นเป็นคอสอของปะเทดฝะลั่งกะสิสองพันสิบหก
ในสิบสองเดียน หลือในปีหนึ่ง กะสิมีสิบสองเดียน แต่ละเดียนกะสิมี หนึ่ง เดียนมกกะลาคม สอง กุมพาพัน สาม เดียนมีนาคม สี่ เดียนเมสาย๊น ห้า เดียนพึสะพาคม หก เดียนมิถุนาย๊น เจ็ด เดียนกะละกะดาคม แปด เดียนสิงหาคม เก้า เดียนกันญาย๊น สิบ เดียนตุลาคม สิบเอ็ด เดียนพึสะจิกาย๊น สิบสอง เดียนทันวาคม
อันนี้กะสิเป็นสิบสองเดียนในหนึ่งปี แต่ละปีกะสิมีสิบสองเดียนนี้หละ
แล้วในปีหนึ่งสิมีจักมื้อ ในปีหนึ่งกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ หลือสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
ขั้นเดียนกุมพา หลือขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้บแปดมื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบห้ามื้อ
แต่ว่าขั้นปีใดที่เดียนกุมพาพันมียี้สิบเก้ามื้อ ปีนั้นกะสิมีสามล้อยหกสิบหกมื้อ