Translations are evolving and should be taken as indicative only! For a guide to the tones and the spelling system used to write this variety of Isaan (Khon Kaen), see the "tone guide" on the overview page.

Tones: M = mid, HR = high-rising, H = high, HF = high-falling, LF = low-falling

IsaanPronunciationTonesThaiEnglish/Notes#occ
บุ bu M particle: used to convey a sense of uncertainty, or to ask oneself {ตั้งอยู่เทิงโต่ะ หลือตั้งอยู่ใสบุ = [placed] on the table, or somewhere else} {คือใดบุ = who knows?, maybe} 9/7

Link to overview page
Link to dictionary

Basic vocabulary — Page 24 — Series B, pictures 11-13: mat, to sit, to eat


11
เขากำลังเฮ็ดหญัง กะมีพุซายพุหนึ่ง เขากำลังสิปูสาด
เขาสิปูสาดเฮ็ดหญัง จักคือกัน จักว่าเขาสิปูสาดเฮ็ดหญัง เขาอาดสินั่ง อาดสินั่งอยู่หนี้กะได้ เขากะเลยสิปูสาด
แล้วเขาปูสาดจักผืน ปูผืนเดียว ผืนเดียวข้อหล้อ สีซมพูพุ้นหละเนาะ หวานแหวววะสั้น

12
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังนั่ง เขากำลังนั่งอยู่สาดนั้นหละ
เขาปูสาดได้แล้วเขากะนั่ง เขานั่งอยู่เทิงสาด นั่งอยู่พุเดียวของเขานั้นหละ สาดกะผืนน้อยผืนบ่ใหญ่หลาย ผืนพอดี เขากะนั่งอยู่เทิงสาดนั้น
แล้วเขานั่งเฮ็ดหญัง จักหละเด้อ จักว่าเขานั่งเฮ็ดหญัง อาดสินั่งเซาเมี่ยย หลือว่านั่งเหล้นกะได้

13
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังกินเข้า เขานั่งอยู่สองคนกำลังกินเข้าอยู่
มีพุหญิงกับพุซาย พุหญิงพุหนึ่ง พุซายพุหนึ่ง เขากำลังกินเข้าฮวมกัน กำลังกินเข้าอยู่นำกัน
แล้วเขากินเข้าอยู่ใส จักคือกัน จักว่าเขากินเข้าอยู่ใส เห็นแต่ว่าเขานั่งอยู่เทิงสาด เขาปูสาด แล้วเขากะมีแนวกินพ้อม แล้วเขากะนั่งกินเข้าฮวมกันอยู่ในสาด
แนวกินกะมีบ่หลายดอก มีเข้า แล้วกะมีปา แล้วกะมีอี่หยังบุ จักว่าเขากินอี่หยังแน่บุ อันนี้เฮากะแนมบ่ค่อยเห็นเนาะ

Basic vocabulary — page 16 — Series B, pictures 09-10: coffee, sugar


9
นี้คืออี่หยัง นี้คือกาแฟ
กาแฟอยู่ในถ้วย กาแฟอยู่ในถ้วยกาแฟ
กาแฟเป็นน้ำสีดำ เป็นน้ำสีดำอยู่ในถ้วยกาแฟ ตั้งอยู่เทิงโต่ะ หลือตั้งอยู่ใสบุ
ถ้วยกาแฟมีสีขาว ออกสีฟ้านี้หละ แต่บ่ขาวหลาย ถ้วยกาแฟกะอันบ่ใหญ่ อันบ่ใหญ่หลาย อันพอน้อย
กาแฟมีถ้วยฮองพ้อม หลือจานฮองนั้นหละ เป็นจานฮองกาแฟ
อยู่ข้างกาแฟมีซองน้ำตานพ้อม ซองน้ำตานเป็นซองสี่เหลี่ยม เป็นซองสีส้มส้มออกแดงนี้หละ ซองบ่ใหญ่หลาย ซองน้อยวางอยู่ข้างถ้วยกาแฟ
ถ้วยกาแฟมีหูจับบ่ ถ้วยกาแฟมีหูจับพ้อมแม่นบ่ แม่น ถ้วยกาแฟมีหูจับพ้อม
หูจับติดอยู่ข้างถ้วยกาแฟนั้นหละ หูจับบ่ใหญ่หลาย หูจับน้อยพอเอาไว้ให้มือจับได้

10
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังปุงกาแฟ
เป็นหญังเขาคือปุงกาแฟ บ่ลู้คือกัน กาแฟอันนี้อาดสิลดซาดบ่แซบ เขากะเลยปุง เพื่อที่สิให้มันแซบ หลือถืกปากของเขากะได้ เพื่อที่เขาสิได้กินแซบ
เขาปุงกาแฟจั่งใด เขาใส่น้ำตานเข้าไปในกาแฟอีก บ่ลู้ว่าเขาใส่อี่หยังแน่ แต่ที่เห็นเขากำลังใส่น้ำตานอยู่ เขาจับซองน้ำตานเทลงไปในกาแฟ เขาอาดสิอยากกินหวาน อาดสิอยากกินลดซาดหวานกะได้
น้ำตานมีลดซาดจั่งใด น้ำตานมีลดซาดหวาน มีลดซาดหวานคัก ขั้นใส่หลายกะหวานหลาย ขั้นใส่น้อยกะหวานน้อย
น้ำตานมันแข็งบ่ บ่ น้ำตานมันบ่แข็ง น้ำตานมันอ่อนขั้นมันถืกน้ำแล้วมันกะสิละลาย มันสามาดละลายได้เอง

Basic vocabulary — page 18 — Series B, pictures 01-03: to smile, to cry, sad, angry


1
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังยิ้มอยู่
เขายิ้มเฮ็ดหญัง จัก บ่ฮู้ บ่ฮู้คือกัน จักว่าเขายิ้มเฮ็ดหญัง เขาอาดสิมีความสุขกะได้ เขากะเลยยิ้ม
อันนี้เขาเป็นพุหญิงหลือเป็นพุซาย เขาเป็นพุหญิงแม่นบ่ บ่ เขาบ่ได้เป็นพุหญิง เขาเป็นพุซาย หมออันนี้มันเป็นพุซาย มันเป็นพุซาย มันบ่แม่นพุหญิง บักอันนี้มันเป็นพุซาย
เป็นหญังมันคือยิ้มฮึ จักคือกัน มันอาดสิดีใจหลือมีความสุขนั้นหละ มันกะเลยยิ้ม

2
เขากำลังเฮ็ดหญังอยู่ หน้าเขากำลังบูดอยู่ คือสิเสียใจ คือสิเส้า คือสิสึม คือสิหมองนี้หละ
คนนี้แม่นคนคือกันกับคนลูบวั่งหั้นบ่ แม่น คนเดียวกัน ลูบเดียวกัน แต่ว่าคนละอาลม
ตอนนี้พุซายคนนี้เขาอาลมจั่งใด เขากำลังเส้า หน้าตาเขากำลังเส้า กำลังหมองอยู่ หน้าตาบ่มีสีสัน บ่มีฮอยยิ้มเลย
เบิ่งคักแล้ว สีหน้าของเขาซงคือสิฮ้องไห้นี้หละ มีฮอดน้ำตาพ้อม
คือสิฮ้องไห้ คือสิเป็นหญังบุ อันนี้กะบ่ฮู้คือกัน จักว่าเขาเป็นอี่หยัง

3
พุซายคนนี้เขาเป็นอี่หยัง จักคือกัน เบิ่งหน้าของเขาแล้วคือสิสูน คือสิใจฮ้ายหลาย จักเขาใจฮ้ายมาแต่ใส จักว่าเขาใจฮ้ายให้พุใด
เบิ่งสีหน้าแล้วเป็นตาสูนคัก เป็นตาสูนบักคักหนึ่ง เป็นตาใจฮ้ายคัก เป็นตาใจฮ้ายคักอี่หลี
ขั้นเขาสูนคักใจฮ้ายคักเขาสิเฮ็ดอี่หยังต่อ ขั้นเขาสูนคักหลือใจฮ้ายพุใดคักนี้ เขาอาดสิไปตี หลือมีเลี่ยงทะเลาะวิวาทกันกะได้
ขั้นมีเลี่ยงพุนั้น มีเลี่ยงกับพุนี้ เขาอาดสิไปตีหลือมีเลี่ยงกันกะได้
ขั้นเว้าผิดใจกัน หลือเว้าบ่ถืกหูกัน กะอาดสิมีเลี่ยงกัน หลืออาดสิมีเลี่ยงตีข้ากันกะได้

Basic vocabulary — page 14 — Series B, pictures 01-04: paper, pen, to write, scissors, to cut


1
นี้คืออี่หยัง นี้คือกะดาด กะดาดหลายแผ่น กะดาดแผ่นสีขาว ขาวจุ่นพู่นอยู่ แผ่นบักใหญ่หนึ่ง
กะดาดมันเป็นลูบสี่เหลี่ยม มันเป็นซงสี่เหลี่ยม ตงดี
กะดาดมันเอาไว้เฮ็ดหญัง กะดาดเอาไว้เขียน เอาไว้วาดลูบ เอาไว้ใซ้งาน สามาดเฮ็ดได้หลายอย่าง
กะดาดมันเฮ็ดมาจากอี่หยัง กะดาดเฮ็ดมาจากไม้ เฮ็ดมาจากพืด คนเฮาสิตัดไม้ หลือเอาไม้นั้นมาลีไซเคินเฮ็ดเป็นกะดาด
ขั้นเอากะดาดหลายแผ่นมาลวมกันหลายมันกะสิกายเป็นสะหมุด หลือเฮ็ดเป็นสะหมุดได้
ขั้นมีกะดาดอยู่แผ่นเดียว เขากะสิเอิ้นว่ากะดาด ขั้นเอากะดาดหลายแผ่นมาลวมกันเฮ็ดเป็นปึกเขากะสิเอิ้นว่าสะหมุด
ตอนนี้กะดาดมีฮอยเขียนบ่ บ่ ตอนนี้กะดาดมันยังว้างเป่าอยู่ บ่มีฮอยเขียนอี่หยังเลย

2
นี้คืออี่หยัง อันนี้กะกะดาดคือกัน เป็นกะดาดหลายแผ่นคือกัน ตอนนี้เขากำลังเขียนกะดาดอยู่
เขากำลังเขียนอี่หยังบุอยู่ในกะดาด เขาใซ้ปากกาเขียนอยู่ในกะดาดนั้น อาดสิเขียนเป็นโตหนังสือ ปากกาแท่งสีแดง แล้วเขากะเขียนลงไปเป็นโตหนังสือสีแดงคือกัน
เขาใซ้มือของเขาข้างขวาจับปากกา แล้วกะเขียนอยู่ในกะดาดนั้น
ฮู้บ่ว่าเขาเขียนเป็นโตอี่หยัง หลืออักสนอี่หยัง อันนี้กะบ่ฮู้คือกัน จักว่าเขาเขียนอี่หยัง อาดสิเป็นโตหนังสือ จักว่าเป็นโตหนังสือปะเทดอี่หยัง อันนี้กะบ่ฮู้นำคือกัน

3
นี้คืออี่หยัง นี้คือกันไก กันไกอันบักญาวหนึ่ง
กันไกเป็นเหล็ก ด้ามมันสีดำ อาดสิเป็นพะสะติกกะได้
กันไกเอาไว้เฮ็ดหญัง กันไกเอาไว้ตัด เอาไว้ตัดหลายสิ่งหลายอย่าง เอาไว้ตัดกะดาดกะได้ เอาไว้ตัดเซียกกะได้ ตัดเสี้ยผ้ากะได้ สามาดตัดได้หลายอย่าง
กันไกมันตาย้านบ่ กะตาย้านอยู่ อันตะลายพ้อม กันไกมันตาย้านแล้วกะอันตะลาย เพาะว่ากันไกมันคม มันแหลม มันสามาดปาดได้ หลือเฮ็ดให้เฮามีแผได้คือกัน

4
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังตัดกะดาด
จักพุใดบุ ตอนนี้เขากำลังตัดกะดาดอยู่ เขาใซ้กันไกอันหนึ่ง กำลังตัดกะดาดอยู่ ตัดกะดาดแผ่นสีขาว แผ่นสี่เหลี่ยม ใซ้กันไกตัดลงไปหม้องกางกะดาด อาดสิตัดเป็นลูบสี่เหลี่ยมกะได้ จักเขาสิตัดไปเฮ็ดอี่หยัง
เขาใซ้มือของเขาข้างหนึ่งจับกะดาดอยู่ มือของเขาอีกข้างหนึ่งกำลังจับกันไกอยู่ แล้วกะตัดกะดาดลงไป
เป็นหญังเขาคือตัดกะดาด อันนี้กะบ่ลู้คือกัน จักว่าเขาสิตัดกะดาดเฮ็ดหญัง อาดสิตัดไปใซ้งาน หลือเฮ็ดอี่หยังบางสิ่งบางอย่างกะได้

Stories — Dog getting dirty

มื้อนี้เนาะหอั้น มีเลี่ยงหนึ่ง มีเลี่ยงหนึ่งเนาะ สิมาเว้าให้ฟัง เลี่ยงหมาน้อยหนิหละ หมาน้อยของข้อยหนิหละ เป็นหมาน้อยโตหนึ่งเนาะ หมาน้อยหอั้น โตน้อยนี้หละ พุข้าเอามาเลี้ยง เอามาเลี้ยงใหม่หละ หัวกะเอามาเลี้ยงเนาะ เป็นหมาน้อย หมาพัน จักพันอี่หยังบุ โตน้อยตาฮักดอก ตาฮักอี่หลี หมาน้อยหนิกะเดย ขนสีน้ำตานพุ้นแหล้ว ขนญาวฟูบักคักพุ้นหละ ขนมันกะเดย งามอี่หลี งามคักงามแน่ สะออนหลาย พาไปหม้องนั้นหม้องนี้ มีแต่คนสะออน เขาสะออนคัก เขาสะออนหลาย ญ้อนว่ามันตาฮักหลาย มันตาฮัก

เทิงขี้มึน หมาอี่หยังมามึนกะด้อกะเดี้ย ขี้มึนหลาย หมาโตหนิกะเดย มีหอั้นเลี่ยงหนึ่งหนิหละ มาเว้าเลี่ยงหมาน้อย สิเว้าเลี่ยงหมาน้อยให้ฟัง มื้อนั้นหอั้น เลิกเลียนมาแล้ว มื้อวานนั้นหละเนาะ บ่แม่นมื้อนั้นดอก มื้อวานนั้น เลิกเลียนมาแล้ว หอั้นกะเลยกับบ้าน มาเอาหมาหอั้นสิพามันไปแล่นเหล้น อยู่สะหนามหญ้า อยู่โลงเลียนพุ้นหละ มื้อวานนั้นกะพามันไปแล่นเหล้น โอ๊ย หมากะมึนคักมึนแน่ พามันไปเหล้น ไปหาหมู่พุ้นหละ หาหมู่หมามันคือกันหละ หมู่ของข้อยกะเลี้ยงหมาคือกัน มีสี่ห้าคนพุ้นหละ พากันเลี้ยง คนละโตสองโต เลี้ยงแล้วกะมาเหล้นอยู่นำกันบัดหนิ เลี้ยงอยู่ในหอั้น เอามาหอั้นเหล้นอยู่สะหนามหญ้านั้นหละ อยู่สะหนามหญ้า [...] อยู่โลงเลียนนั้นหละ แล้วกะเอาหมาเหล้นนำกันบัดหนิ โอ๊ย หมาพ้อกันกะม่วนกุ่บ แล้วบัดนี้มันพ้อกันหนะ หลายโตเนาะ กะมีความสุข แล้วหมาได้แล่นเหล้นนำกัน แล่นยอกกัน ก่องแก่งอยู่ แล่นอยู่นำสะหนามหญ้านั้นหละ โตหนึ่งกะแล่นไปทางซ้าย โตหนึ่งกะแล่นไป[ทาง]ขวา โตหนึ่งกะแล่นยอกกัน แล่นเหล้น มึนคักมึนแน่

บัดนี้หมาของข้อยบัดหนิ โตนั้นหละ โตตาฮักนั้นหละ มึนกว่าหมู่บัดหนิ แล่นไปใสบ่แล่น แล่นลงคองน้ำพุ้นหนะ โอ๊ย คองน้ำน้อยดอกว่า แต่ว่า มันกะคองใหญ่พอสมควนหนิหละ มันกะแล่นลงไป เกียกขี้ตมล้อมอ้อมขึ้นมาบัดหนิ โอ๊ย มึนคัก มึนแน่ บ่ฮู้จักความหลาย หมาหนิกะเดย เกียกขี้ตมล้อมอ้อมขึ้นมาบัดหนิ โอ๊ย ข้อยกะสูนวะสั้นหละ ใจฮ้ายวะสั้น ด่ามันวะสั้นแหล้ว บ่ให้มันเหล้นอีกซ้ำแหล้ว พามันกับบ้านซ้ำ พามันกับบ้านไปล้างตนล้างโต ล้างขนมันออกนั้นหละ ขี้ตมมันบ่เป็นตาเบิ่งเนาะ ขี้ตม เกียกขี้ตมแล้วกะ โอ๊ย สูนวะสั้น เทิงสูนให้หมา เทิงสูนให้เจ้าของว่าพามันไปเหล้นอยู่นั้น ใก้คองน้ำเนาะ กะเลยพามันมาอาบน้ำ แล้วกะ [...] สะอาดคือเก่าหละ ตาฮักคือเก่าเนาะ แล้วกะมื้อหลังกะพามันไปคือเก่านั้นหละ อันนี้กะมาเว้าให้ฟังซื่อๆ ว่าพามันไปเหล้น มันมึนหลายเนาะ

Stories — Childhood memory: jumping off a tree branch into a pile of straw, branch breaks

มีมื้อหนึ่งเนาะ แต่โดนนั้นหละ แต่โดนเติบ แต่หลายปีแล้วหละ ตั้งแต่พุข้าเป็นเด็กน้อยพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย อายุพุ้นหละมาลาวๆ หอั้น สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละเนาะ จักปีเกาะ สิบปี สิบเอ็ดปีพุ้นหละ เป็นสิบปีคืนหลังพุ้นหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อย เป็นเด็กน้อยเด็กเอ่ยพุ้นหละ พากันเหล้นกันเนาะ ตามปะสาเด็กน้อยหละ โอ๊ย เด็กน้อยอยู่บ้านกะหลายกะด้อกะเดี้ย หมู่กันหนิหละ ตั้งแต่เป็นเด็กน้อยเนาะ กะหมู่หลายเนาะ สะหมัยแต่กี้เด็กน้อยในหมู่บ้านหนิ หลายเติบเด่ะเด็กน้อยหนิ เป็นซาวพุ้นหละ ซาวกะคือยี้สิบพุ้นหละ เป็นยี้สิบสามสิบคนพุ้นหละ เด็กน้อยในหมู่บ้านนั้น หลายคัก

พากันเหล้นมื้อนั้น พากันซวนกันไปเหล้น ไปเหล้นอี่หยังบุ ไปเหล้นอี่หยัง บ่เหล้น พากันได้ปีนกกไม้ ไปปีนหอั้น ไปเหล้นหญ้มหอั้น กกไม้ ต้นอี่หยังเกาะ เขาเอิ้นว่าหอั้น ต้นผักกะเสดติ ต้นผักกะเสดเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น โอ๊ยตาอยากหัวหลาย คิดพ้อแล้วกะเดย คิดพอแล้วกะอยากหัวเนาะ ไปพากันไปปีนเหล้น สี่ห้าคนพุ้นแหล้ว มื้อนั้นหอั้น ปีนขึ้นไปต้นนั้น ผักกะเสดกะต้นน้อยเนาะ ต้น[...] ลำบ่ใหญ่ปานใด

พากันขึ้นสี่ห้าคน ขึ้นแล้วกะหญ้ม [...] เหล้นพุ้นแหล้ว ขึ้นเหล้นเพาะว่าหอั้น อยู่ข้างกกหอั้น ผัก ผักอี่เสดหนะ ต้นผักอี่เสด แล้วมันสิมีหอั้น กองเฟียงเนาะ กองเฟียงกองบักใหญ่หนึ่ง เด็กน้อยกะแล่นเหล้น บางคนกะเหล้นอยู่อ้อมกองเฟียงนั้นหละ แล่นเหล้น แล่นซ้าย แล่นขวา โดดซ้าย โดดขวา โดดอยู่เทิงกองเฟียงนั้นหละ ม่วนหลาย ม่วนคัก

ซุมขี้มึนบัดหนิ ซุมขี้มึนกะไปปีนหอั้นกกผักอี่เสด จักปีนจั่งใด หญ้มซ้าย หญ้มขวา บางคนกะโดดใส่กองเฟียง บางคนกะโดดลงข้างล่าง โดดซ้าย โดดขวา ปีนขึ้นเทิงโดด ปีนขึ้นเทิงโดดเนาะ โดนเติบ บัดนี้พอฮอดหอั้น โดนเติบ บัดนี้หอั้น ต้นไม้มันกะสิหักตั๊วะบัดหนิ ต้นไม้ ผักอี่เสด ต้นที่ ที่มันขึ้นนั้นหละ สี่ห้าคนนั้นหละ มึนคักมึนแน่แต่กี้หนะ หักลงมาบัดหนิ ยืนอยู่เทิงนั้นสี่ห้าคนพุ้นหนะ ง่าผักอี่เสดหักลงมา ตกเอ้ม! ลงมา ตก เจ็บวะสั้น แล้วพากันให้ก้ากๆ ไปหาพ่อหาแม่บัดหนิ

กองเฟียงกะบ่ได้เหล้นซ้ำ ต้นไม้นั้นกะหักซ้ำ บ่มีพุใดได้ขึ้นอีกบัดหนิ พากันให้แข่งกัน ไปหาพ่อแม่บัดหนิ ถืกตีซ้ำ พ่อแม่กะตีซ้ำว่ามึนหลาย ไปเฮ็ดหญังบ่เฮ็ด ไปปีนกกไม้ ตกลงมาให้ก้ากๆ ได้เป็นแผเป็นเอ่ย เจ็บโตซ้ำ เทิงถืกพ่อแม่ตีอีก บัดนี้กะบ่ได้ไปขึ้นอีกดอก บ่มีกกไม้ กกไม้กะได้หักแล้ว บ่ได้ขึ้นอีกดอกบัดหนิ

มื้อหลังมื้อใหม่กะสิหาเหล้นแนวใหม่พุ้นหละ บ่มีหม้องขึ้นแล้ว กก [...] ไม้ กกผักอี่เสดอยู่ข้างกองเฟียง หม้องที่สิโดดลงกองเฟียงหนะกะบ่มีแล้ว กะสิได้หาเหล้นแนวใหม่ต่อไปนี้เนาะ

Basic vocabulary — page 17 — Series B, pictures 01-05: laundry, to wash, to dry, to fold


1
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังซักผ้า เขาซักผ้าโตสีแดง เขาซักผ้าโตหนึ่ง
ซักผ้าอยู่ในกะละมัง กะละมังเป็นวงกม กะละมังใบบักใหญ่หนึ่งดอก กะละมังใบสีเขียว กะละมังอันบักใหญ่
เสี้ยโตนี้มันอาดสิสกกะปก หลือบ่สะอาด หลือบ่เป็นตาใส่ หลือเหม็นนั้นหละ เขากะเลยสิซักให้มันสะอาดกะได้
เขาซักผ้าอยู่ใส จักคือกัน ฮู้แต่ว่าเขาซักผ้าอยู่ในกะละมัง กะละมังใบวงกม กะละมังใบบักใหญ่หนึ่ง ใบสีเขียว
เขาใซ้มือของเขาสองข้างนั้นหละ ซักเสี้ยโตนี้ ใซ้มือสองข้างของเขาซักเสี้ยโตนี้ให้มันสะอาด หลือให้มันดูดีขึ้น หลือให้มันเป็นตาเบิ่งนั้นหละ

2
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังซิดผ้า หลือสะหลิดผ้านั้นหละ เพื่อที่สิให้มันหมาดเพื่อที่สิให้เสี้ยโตนี้มันหมาด หลือบ่ให้มีน้ำติดอยู่ในเสี้ยโตนี้
เสี้ยโตนี้มันเปียกแม่นบ่ แม่น เสี้ยโตนี้มันเปียก เพาะว่าหัวกะซักมา เพาะว่าหัวกะซักมาจากน้ำ มันกะเลยเปียก เสี้ยโตนี้มันเปียกอยู่
คือฮู้ว่าเสี้ยโตนี้มันเปียก กะฮู้ เพาะว่าน้ำมันไหลออกมาจากเสี้ยโตนี้ ในเสี้ยโตนี้มันเปียกอยู่ มันมีน้ำพ้อม กะเลยฮู้ว่ามันเปียกอยู่
ตอนนี้เขาถือเสี้ยอยู่แม่นบ่ แม่น เขาถือเสี้ยอยู่ เขาจับเสี้ยอยู่ เขาใซ้มือของเขาสองข้างจับเสี้ยอยู่ คือสิสะหลิดเสี้ยอยู่ เพื่อที่สิให้น้ำมันออกจากเสี้ยโตนี้หละ
ต่อจากนี้แล้วเขาสิเฮ็ดอี่หยังต่อ เขากะอาดสิเอาไปตาก หลือเอาไปตากอยู่ฮาวตากผ้ากะได้

3
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังสิตากผ้า เขากำลังสิเอาเสี้ยโตนี้หละไปตากอยู่ในฮาว หลือตากใส่แดด เพื่อที่สิให้เสี้ยโตนี้มันแห้ง
เขาตากเสี้ยโตนี้จั่งใด เขาตากอยู่ฮาว อยู่ฮาวตากผ้านั้นหละ เป็นฮาวเซียก หลือฮาวอี่หยังบุ อาดสิเป็นฮาวเหล็กกะได้
เขาใซ้มีแนวหนีบสองอัน ใซ้แนวหนีบสองอันนั้นหละ หนีบเสี้ยโตนี้ หนีบฝั่งซ้ายกับฝั่งขวา เพื่อที่สิให้มันอยู่ เพื่อที่สิให้มันติดกับฮาวอันนี้ แล้วกะตากแดดต่อไป
เป็นหญังเขาคือตากอยู่ฮาว เพาะว่าสิให้เสี้ยโตนี้มันถืกแดด แล้วให้มันแห้งเล็วขึ้น เพื่อที่สิสามาดใซ้ได้ หลือให้มันแห้งแล้วกะเอาไปใส่

4
ตอนนี้เป็นอี่หยังอยู่ เสี้ยโตนี้กำลังตากอยู่ ตากอยู่ฮาวเก่านั้นหละ ตากอยู่ในฮาว
เสี้ยโตนี้เสี้ยแขนสั้น เสี้ยสีแดง ตากอยู่โตเดียว ตากอยู่ฮาวกางเดิ่นกางลานอี่หยังกะบ่ฮู้
แล้วเสี้ยโตนี้มันกะถืกแดดพ้อม แดดกะส่องมาใส่เสี้ยโตนี้ แล้วกะเฮ็ดให้เสี้ยโตนี้แห้ง แล้วกะบ่ให้เสี้ยโตนี้เปียกคือเก่า แล้วน้ำมันกะสิละเหยขึ้น เพาะว่ามันมีแดด แดดมันส่อง แล้วเฮ็ดให้เสี้ยโตนี้มันแห้ง
เสี้ยโตนี้ใซ้เวลาโดนบ่มันจั่งสิแห้ง กะใซ้เวลาโดนอยู่ ขั้นแดดมันฮ้อนคัก มันกะสิใซ้เวลาบ่โดน
ขั้นมันบ่มีแดด หลือแดดมันบ่ค่อยฮ้อน มันกะใซ้งานโดน หลือใซ้เวลาโดน กว่าเสี้ยโตนี้มันสิแห้ง

5
เขากำลังเฮ็ดหญัง เขากำลังพับผ้า เอาผ้าที่ตากนั้นหละเอามาพับ เพื่อที่สิเก็บให้มันเลียบล้อย เพื่อที่สิให้มันเป็นละเบียบเลียบล้อย
เป็นหญังเขาคือพับผ้า กะจักคือกัน เขาอาดสิให้มันดูดีขึ้น หลือเป็นละเบียบเลียบล้อยนั้นหละ เขากะเลยพับผ้า
เอาผ้าที่ตากนั้นหละ เอามาพับ เพื่อที่สิให้มันเป็นละเบียบขึ้นกว่าเก่า หลือให้มันเป็นตาเบิ่งกว่าเก่า
พอพับผ้าแล้วสิเอาไปเก็บอยู่ใส สิเอาเสี้ยโตนี้ไปเก็บใส กะเอาเสี้ยโตนี้ไปเก็บในตู้ ขั้นพับแล้วกะเอาไปเก็บไว้ในตู้ หลือซั้นเก็บเสี้ยผ้า เพื่อที่สิให้มันเป็นละเบียบ
ขั้นมีเสี้ยหลายโต แล้วไปพับวางกัน วางถ้อนกัน วางซ้อนกันอยู่ในตู้ แล้วมันสิเป็นตาเบิ่งบ่ กะเป็นตาเบิ่งอยู่ ขั้นมีเสี้ยหลายโตพับ แล้วกะวางซ้อนกันหลายโต มันกะสิเป็นตาเบิ่ง เป็นละเบียบเลียบล้อย